สกุลเงินที่อ่อนไหวกับความเสี่ยงปรับตัวดีขึ้นในช่วงเช้าวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากความเป็นไปได้ที่ความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการภาษีอย่างรุนแรงของทรัมป์จากคำสั่งฝ่ายบริหาร 100 ฉบับแรกอาจไม่เกิดขึ้น ประกอบกับช่วงวันหยุดในสหรัฐฯ โดยความเชื่อมั่นเชิงบวกยังมาจากข้อมูลผู้บริโภคสหรัฐฯเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ร่วมกับการคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีน (PBOC) และการคาดการณ์ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางรายหลักนอกสหรัฐฯอาจชะลอตัวลง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและข้อมูลที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯที่มีทิศทางเป็นบวก ช่วยให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าจะเผชิญการร่วงลงครั้งแรกในรอบเจ็ดสัปดาห์ก็ตาม ทั้งนี้ คำแถลงเชิงสนับสนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวดของเบธ แฮมแมค ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯประจำคลีฟแลนด์ และการรายงานข่าวในหลากหลายทิศทางจากการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีน ยังทำให้แรงเทขายดอลลาร์สหรัฐฯยังคงมีบรรยากาศระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการคาดการณ์ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 อาจชะลอออกไป
ในอีกทางหนึ่ง การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯและความเชื่อมั่นในเชิงบวกที่เป็นไปอย่างระมัดระวังช่วยสนับสนุนการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในสกุลเงินที่เชื่อมโยงกับสินค้าโภคภัณฑ์และทองคำ ขณะที่สกุลเงินหลักอื่นๆยังคงรักษาระดับการปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ทางฝั่งสกุลเงินดิจิทัลมีการปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยก่อนพิธีสาบานตนของทรัมป์ ขณะที่ ตลาดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกฟื้นตัวจากการร่วงลงก่อนหน้านี้ ซึ่งในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบยังคงเผชิญแรงกดดัน หลังจากเกิดรูปแบบแท่งเทียนโดจิ (Doji candlestick) บนกราฟรายสัปดาห์
คู่เงิน EURUSD พุ่งสูงขึ้นหลังจากหลุดจากแนวโน้มขาลงต่อเนื่องหกสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากท่าทีระมัดระวังของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ในขณะเดียวกัน คู่เงิน GBPUSD ฟื้นตัวหลังจากราคาบ้านในสหราชอาณาจักรพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก และท่าทีของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่ไม่ต้องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ส่วนทางด้านคู่เงิน USDJPY ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากความเชื่อมั่นเชิงบวกในตลาด และการคาดการณ์ว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ในวันศุกร์นี้
คู่เงิน AUDUSD ฟื้นตัวจากการร่วงลงต่อเนื่องสองวัน โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ความกังวลเกี่ยวกับจีน และการขาดการรายงานข่าวเกี่ยวกับสงครามทางภาษี ประกอบกับการเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยบรรยากาศเชิงบวกหลังจากมีการขยับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของออสเตรเลียที่ยังไม่มีการเปิดเผยมากนัก และแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ยังคงเป็นอุปสรรคสำหรับแรงเทซื้อในช่วงการซื้อขายที่เงียบเหงา
เช่นเดียวกับดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์นิวซีแลนด์และดอลลาร์แคนาดาก็ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นเชิงบวกแม้จะมีบรรยากาศการซื้อขายที่ระมัดระวังและการดึงกลับของดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะ คู่เงิน USDCAD ที่ถอยตัวลงจากระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 แม้ว่าราคาน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของแคนาดาจะปรับตัวลดลง ขณะที่ คู่เงิน NZDUSD ยุติการร่วงลงต่อเนื่องสองวัน
ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ปรับลดลงในวันก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งขึ้น การอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐฯ และข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับจีน หลังจากช่วงแนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินมาต่อเนื่องสามสัปดาห์ ในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบยังคงเผชิญแรงกดดันหลังจากร่วงลงสองวันติดต่อกัน โดยมีการอัปเดตข่าวสารทางการเมืองที่จำกัดหลังจากข้อตกลงหยุดยิงในกาซา
ความคาดหวังต่อแนวทางที่เป็นมิตรต่อตลาดสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นภายใต้การบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ กระตุ้นการปรับตัวขึ้นของ Bitcoin (BTCUSD) และ Ethereum (ETHUSD) โดยทั้งสองสกุลเงินพุ่งขึ้นเกือบ 7% ในระหว่างวันในช่วงเช้าวันจันทร์นี้ นอกจากนี้ การไหลเข้าของเงินทุนสู่ ETF ยังช่วยสนับสนุนการปรับตัวขึ้นนี้อีกด้วย ขณะที่ BTCUSD สามารถขยับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ ETHUSD กลับชะลอตัวลง โดยไม่สามารถปิดสัปดาห์ในเชิงบวกได้
พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก โดยเขาได้ส่งสัญญาณถึงแผนการออกคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวน 100 ฉบับ แม้ว่าการตอบสนองของตลาดอาจถูกจำกัดเนื่องจากช่วงวันหยุดในสหรัฐฯ โดยการหารือเรื่องภาษีศุลกากรอาจสร้างความผันผวน และส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ขณะที่กดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสกุลเงินที่อ่อนไหวต่อความเสี่ยงอย่างเช่น ดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์แคนาดา และดอลลาร์นิวซีแลนด์ ทั้งนี้ สัญญาณเบื้องต้นบ่งชี้ว่าทรัมป์อาจชะลอการใช้มาตรการภาษีอย่างหนักกับแคนาดา เม็กซิโก และจีนออกไปก่อนในช่วงแรก
นอกจากนี้ ความคืบหน้าจากการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมถึงการประชุม World Economic Forum (WEF) ก็อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาด ท่ามกลางปฏิทินเศรษฐกิจที่เบาบาง
ในสัปดาห์นี้ ตลาดจะจับตามองการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น การรายงานข้อมูลการจ้างงานจากสหราชอาณาจักร และข้อมูลเศรษฐกิจเบื้องต้นสำหรับเดือนมกราคมอย่างใกล้ชิด โดยดอลลาร์สหรัฐฯอาจฟื้นตัวจากการอ่อนค่าลงล่าสุด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคู่เงิน EURUSD,คู่เงิน GBPUSD และคู่เงิน AUDUSD ในขณะที่ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด!
