ตลาดยังคงมีบรรยากาศการซื้อขายที่ระมัดระวังก่อนการรายงานเหตุการณ์สำคัญ ซึ่งประกอบไปด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FOMC, ตัวเลขดัชนี PMI ในเดือนธันวาคม, ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของ Fed และการประกาศนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) นอกจากนี้ ความวิตกกังวลยังเพิ่มขึ้นจากการอัปเดตสถานการณ์ในจีน และการคาดการณ์ถึงการรายงานตัวเลขดัชนี PMI ในวันนี้ รวมถึงแถลงการณ์จาก Christine Lagarde ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB)
คู่เงิน EURUSD ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม ท่าทีเชิงสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินของ ECB และความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอในยุโรปก่อนการประกาศตัวเลขดัชนี PMI ยังคงจำกัดการปรับตัวสูงขึ้น
โดยคู่เงิน GBPUSD เกิดการดีดตัวกลับ แต่ยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากรายงานภาคการผลิตในสหราชอาณาจักรที่ระบุว่าความเชื่อมั่นมีการปรับลดลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงการระบาดใหญ่ รวมถึงราคาบ้านที่ลดลง 1.7%
ทั้งนี้ คู่เงิน USDJPY ปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าผู้กำหนดนโยบายของ BoJ จะยังลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตาม ถึงกระนั้น ตัวเลขดัชนี PMI ของญี่ปุ่นที่ปรับตัวดีขึ้นก็ยังทำหน้าที่เป็นแรงหนุนบางส่วนเช่นกัน
คู่เงิน AUDUSD ยุติการร่วงลงต่อเนื่องสี่วัน แม้ตัวเลขดัชนี PMI ของออสเตรเลียจะปรับลดลงและมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในจีนก็ตาม
ทางด้านคู่เงิน NZDUSD ก็มีการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขดัชนี PMI ภาคบริการของนิวซีแลนด์ที่ปรับตัวดีขึ้น แต่ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับจีนและการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอของนิวซีแลนด์ยังคงจำกัดการฟื้นตัว
ในขณะเดียวกัน คู่เงิน USDCAD ชะลอตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 56 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันที่เป็นปัจจัยสนับสนุนเล็กน้อย แม้ว่าท่าทีสนับสนุนนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของ BoC และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่กำลังจะมีการเปิดเผยจะจำกัดการปรับตัวขึ้นก็ตาม
ราคาทองคำยุติการร่วงลงสองวันติดต่อกัน โดยฟื้นตัวขึ้นจากความหวังว่าอุปสงค์ทองคำที่แข็งแกร่งจากจีน และจากการคาดการณ์ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความกังวลด้านการค้ายังจำกัดการเคลื่อนไหวของระดับราคา หลังจากพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบสามสัปดาห์ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงท่ามกลางสัญญาณที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับอุปสงค์และอุปทาน และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ยังคงแข็งแกร่ง
Bitcoin (BTCUSD) ทำสถิติสูงสุดใหม่ใกล้ระดับ $106.5K ทดสอบแนวต้านอายุสามสัปดาห์ ในขณะเดียวกัน Ethereum (ETHUSD) ยังขาดแรงส่งเพื่อปรับตัวขึ้น แม้จะมีปัจจัยสนับสนุนเชิงบวกอย่างเช่น แผนของยูเครนในการอนุมัติให้สกุลเงินดิจิทัลให้ถูกกฎหมายภายในปี 2025, กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF อย่างแข็งแกร่ง และการสนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซีในฐานะสินทรัพย์สำรอง (superior reserve assets) จาก World Liberty Financial (WLFI) ที่ได้รับการสนับสนุนโดย Donald Trump ท่ามกลางความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed
สัปดาห์นี้เริ่มต้นด้วยการประกาศข้อมูลสำคัญ โดยเริ่มจากรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นสำหรับเดือนธันวาคมของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก (Major Economics) นอกจากนี้ แถลงการณ์ของ Christine Lagarde ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และดัชนีภาคการผลิต Empire State ของนิวยอร์กก็เป็นอีกเหตุการณ์สำคัญที่น่าจับตามองในวันนี้เช่นกัน
แม้ว่าตัวเลขดัชนี PMI อาจมีผลกระทบต่อค่าเงินเพียงเล็กน้อย แต่ท่าทีจากแถลงการณ์ของ Lagarde อาจยุติการฟื้นตัวของคู่เงิน EURUSD ได้ด้วยเช่นกัน หากเธอเน้นย้ำถึงความกังวลทางเศรษฐกิจที่ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องในยูโรโซน โดยตัวเลขดัชนี PMI ของสหราชอาณาจักร อาจสะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจที่ยังคงอยู่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคู่เงิน GBPUSD ขณะที่ คู่เงิน USDJPY อาจยังคงได้รับแรงหนุนจากความกังวลใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ)
นักเทรดต่างจับตามองการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในวันพุธ ซึ่งอาจทำให้คู่เงิน AUDUSD, คู่เงิน NZDUSD และ คู่เงิน USDCAD พลิกกลับจากการปรับตัวสูงขึ้นก่อนหน้าได้ หากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯไม่อ่อนค่าลงเพิ่มเติม ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวอาจกระตุ้นราคาทองคำและ Bitcoin (BTCUSD) ซึ่งจะช่วยขยายการขยับตัวขึ้นล่าสุดของสินทรัพย์ทั้งสองต่อไป
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด!