FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด: กระทิงและหมียังคงมีประเด็นที่ต้องโต้แย้ง

FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระหว่าง 5.25% ถึง 5.5% ซึ่งกลายเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2001 ขณะนี้เรากำลังเห็นการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยที่เรียกว่า "no-shock rate hike" ที่ยังคงก่อให้เกิดความคิดเห็นที่แตกต่างกันจากนักเศรษฐศาสตร์และผู้ร่วมตลาดในตลาดการเงิน

นักวิเคราะห์เชื่อว่าอาจมีมุมมองและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันเกิดขึ้นจากมาตรการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯได้ดำเนินการด้านการเงินและเศรษฐกิจ โดยสถานการณ์ที่มีความเป็นไปได้ในหลากหลายทิศทางนี้มีโอกาสที่จะกระตุ้นความเสี่ยงให้กับตลาดการเงิน เป็นผลให้ผู้ร่วมตลาดบางส่วนเรียกร้องให้ FED ยับยั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและใช้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยหลักที่ถูกกำหนดขึ้นโดย PCE

ทั้งนี้ตลาดมีปฏิกิริยาทันทีหลังจากการตัดสินใจของ FED ซึ่งปัญหาหลักคือธนาคารกลางสหรัฐฯยังเปิดโอกาสไว้สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหากจำเป็นต้องใช้มาตรการดังกล่าว หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว การดำเนินนโยบายการเงินของ FED อาจมีแนวโน้มไปได้ทั้งสองทิศทางคือการลดอัตราดอกเบี้ยและการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย

โดยผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นว่า FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งอย่างแน่นอนหากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานไม่ลดลง

ในทางกลับกัน นักวิเคราะห์บางคนกลับมีความเห็นต่าง พวกเขาเชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ประกาศโดย FED ก่อนหน้านี้จะทำให้ราคามีเสถียรภาพ โดยผู้ร่วมตลาดบางรายแน่ใจว่าถึงเวลาแล้วที่ธนาคารกลางสหรัฐจะต้องขยายระยะเวลาเพื่อให้เศรษฐกิจดูดซับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งก่อน

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนอาหาร น้ำมัน และพลังงานยังคงค่อนข้างสูง เป็นผลให้อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆที่ FED ไม่สามารถควบคุมได้

ในทางกลับกัน สถานการณ์อาจดีขึ้นได้ เนื่องจากเราเห็นต้นทุนการขนส่ง, ความต้องการบริการ และการจ้างงานที่ลดลง พูดง่ายๆก็คือ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุด 5.5% ดูเหมือนจะสมเหตุสมผลแม้ว่าจะค่อนข้างจำกัดก็ตาม โดยที่ขั้นตอนดังกล่าวอาจช่วยผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาที่ 2.5-3% ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า

เราเคยได้ยินสิ่งเดียวกันมาก่อนใช่ไหม? นักเศรษฐศาสตร์บางคนถึงกับเชื่อว่า FED จะปฏิเสธที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก เนื่องจากคาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะชะลอตัวลงในอีกสองวันข้างหน้า คำถามเดียวคือ อัตราดอกเบี้ยจะถึงจุดสูงสุดในรอบนี้หรือไม่

สิ่งเดียวที่ผู้ร่วมตลาดทุกคนเห็นพ้องต้องกันคือ การถือครองพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย พวกเขายังแนะนำให้หลีกเลี่ยงพันธบัตรและหุ้นที่มีความเสี่ยง

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !