หุ้นยุโรปกำลังติดตามการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก โดยในช่วงวันอังคาร ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นเข้าใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2022 และดัชนี MSCI Asia ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน
นักวิเคราะห์มองว่าหุ้นยุโรปมีแนวโน้มจะเปิดตลาดสูงขึ้นหลังจากช่วงวันหยุดยาว ตลาดจะได้รับแรงหนุนจากทั้งตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นในฝั่งเอเชีย ซึ่งการปรับตัวขึ้นนี้อาจเกิดจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2024
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI Asia ปรับตัวขึ้น 1.1% โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งสูงขึ้นของหุ้นบริษัทเทคโนโลยีในฮ่องกงและจีน หลังจากรัฐบาลจีนผ่อนคลายกฎระเบียบในอุตสาหกรรมเกม ซึ่งถือเป็นการปิดที่ระดับสูงสุดในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาและช่วยผลักดันให้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า Euro Stoxx สูงขึ้น 0.6% อีกทั้ง S&P 500 ที่ปิดตัวในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2022 โดยยังคงรักษาสถานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯไว้อย่างมั่นคง
นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์อีกว่าการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทางฝั่งเอเชียจะยังคงดำเนินต่อไป แต่คาดว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ โดยในที่สุดตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงอาจปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาดอื่นๆในเอเชีย ถึงกระนั้น การดีดตัวขึ้นของหุ้นจีนในแผ่นดินใหญ่หลังจากการร่วงลงล่าสุดจะยังคงช่วยสร้างผลประกอบการในทิศทางบวกต่อไป
อีกทางด้านหนึ่ง ดัชนี ASX 200 ของออสเตรเลียปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 โดยได้รับแรงหนุนหลักจากราคาแร่เหล็กที่พุ่งสูงขึ้นและผลประกอบการที่ดีของบริษัทเหมืองแร่ ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งญี่ปุ่น ค่าเงินเยนมีการอ่อนค่าลงรวมไปถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลได้ปรับลดลง ขณะที่ดัชนี Nikkei 225 ขยายตัว 1% ส่งผลให้มุมมองของนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงมองโลกในแง่ดีในช่วงสิ้นปี 2023
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (US stocks) พุ่งสูงขึ้น 4.5% ในเดือนธันวาคมส่งผลให้มีกำไรรวมสะสมตลอดทั้งปีอยู่ที่ 24% ส่วนทางด้านราคาน้ำมัน ราคาได้ปรับตัวลดลงหลังจากเคยพุ่งสูงขึ้นจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยอีกทางด้านหนึ่ง ราคาทองคำร่วงลง ขณะที่ราคา BTC ปรับตัวขึ้นหลังจากเคยร่วงลงในช่วงก่อนหน้านี้
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !