เช้านี้ อารมณ์ตลาดปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากไม่มีเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวให้ติดตามมากนัก รวมถึงแถลงการณ์ในโทนกลางๆ ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และข่าวจากจีนซึ่งส่งสัญญาณว่าสถานการโควิดมีแนวโน้มที่ดีขึ้นและเริ่มมีการผ่อนคลายข้อจำกัดบางอย่างลงบ้างแล้ว
การเปิดรับความเสี่ยงในตลาดฉุดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ลงจากระดับ High เดิมในรอบ 20 ปี ส่งผลให้ทองคำและราคาน้ำมันดิบมีการฟื้นตัวขึ้น ขณะที่สกุลเงินที่มีความเสี่ยงหลายตัวก็ได้รับปัจจัยบวกจากข่าวสถานการณ์ในเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง ซึ่งยิ่งทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงไปอีก
ในส่วนของคริปโตฯ ทั้ง BTCUSD และ ETHUSD ก็ยังปรับตัวลงหนักสุดในรอบสัปดาห์ ขณะที่หุ้นเอเชีย, ยุโรป และอังกฤษปรับตัวขึ้นรับการเปิดรับความเสี่ยงนั่นเอง
รอติดตามข้อมูลสำคัญต่างๆ ที่กำลังจะตามมา ซึ่งอาจส่งผลต่อตลาดอีกครั้ง โดยเฉพาะข้อมูลตัวเลขที่สำคัญที่ต้องติดตาม ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางของตลาดที่ชัดเจน
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์หลักหลายรายการ ดังนี้:
หลังจากที่เราได้เห็นตัวเลข PPI ของสหรัฐซึ่งถือว่าเป็นไปตามสถานการณ์ตลาด (ไม่เหมือนตัวเลข CPI) ขณะนี้เจอโรม พาวเวล ประธาน Fed มีโอกาสที่จะเสนอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% อีกเช่นเคยในการประชุมอีก 2 ครั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นการดับความหวังของนักลงทุนที่คาดว่า Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 0.75% อีกทั้งดาลี ประธาน Fed สาขาซานฟรานซิสโกเองก็ได้ปฏิเสธที่จะตอบสนองเช่นนั้น ซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงจากระดับ High เดิมของปี 2002 ในที่สุด
เป็นจังหวะให้นักลงทุนหุ้นพอได้ใจชื้นถึงแม้เช้านี้สถานการณ์ตลาด Wall Street ในช่วงเริ่มต้นอาจไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็มีการฟื้นตัวขึ้นหลังได้รับแรงหนุนจากข่าวสถานการณ์โควิดในเซี่ยงไฮ้ที่จะคลายมาตรการล็อกดาวน์ลง ขณะที่ปักกิ่งเองก็มีการเตรียมแผนวัคซีนซึ่งเป็นสัญญาณว่าการแพร่ระบาดจะเริ่มเบาบางลง
ในฟากคริปโตฯ ทั้ง BTCUSD และ ETHUSD มีการฟื้นตัวเล็กน้อยหลังจากร่วงหนักในวันก่อน โดยมีปัจจัยหนุนจากการกลับตัวลงของ USD รวมถึงการพิจารณากฏข้อบังคับเกี่ยวกับคริปโตใหม่
พิจารณาจากปัจจัยหลายๆ อย่างที่กดดันค่าเงิน USD ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข CPI และ PPI ขอแนะนำให้นักลงทุนเฝ้าติดตามการคาดการณ์ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคครั้งแรกจากมิชิแกน ซึ่งจะส่งผลให้มองภาพทิศทางของตลาดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งถึงแม้ตัวเลขของเดือน พ.ค. มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลง แต่ก็นับว่าเป็นตัวเลขที่เทรดเดอร์ควรให้ความสำคัญเนื่องจากเกี่ยวกับกับอัตราเงินเฟ้อโดยตรง ซึ่งก็ถือว่าดีกว่าการมานั่งเดาทีท่าต่อไปของ Fed
ที่สำคัญ อย่าลืมประเด็นวิกฤตรัสเซียและสถานการณ์โควิดในจีนซึ่งก็เป็นประเด็นสำคัญที่จะมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อและการเติบโตของเศรษฐกิจไม่แพ้ข้อมูลอื่นๆ
ทำกำไรจากความเคลื่อนไหวในตลาดด้วยระบบ Copy Trade ของ MTrading พร้อมเงื่อนไขชั้นนำ:
คัดลอกการเทรดของนักเทรดมือโปรโดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ ด้วยค่าสเปรด 0 ผ่านบัญชี M.Pro!
ขอให้ท่านโชคดีในการเทรด!