ราคาน้ำมันดิบร่วงลงหลังเปิดตลาดด้วย gap ขาขึ้น จับตามองสภาพภูมิรัฐศาสตร์,Fed และตัวเลข US NFP

ตลาดยังคงซบเซาในช่วงต้นวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนในตลาดกำลังเตรียมพร้อมสำหรับข้อมูล/เหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญของสัปดาห์นี้ ได้แก่ การประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯในเดือนมกราคม 2024 อีกสิ่งที่ท้าทายความเชื่อมั่นของตลาดก็คือความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ และการขาดปัจจัยเร่งปฏิกิริยาในช่วงเช้าของวัน

เมื่อเทียบกับสถานการณ์ดังกล่าว ช่วงแนวโน้มขาขึ้นของ USD ชะลอตัวหลังจากอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นสี่สัปดาห์ ในขณะที่ คู่เงิน EURUSD ฟื้นตัวที่ระดับต่ำสุดในรอบเจ็ดสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม คู่เงิน USDJPY ร่วงลงท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ซบเซาและความกังวลครั้งใหม่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) จะทบทวนการคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า คู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน NZDUSD ขยับตัวสูงขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจีนเตรียมพร้อมสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มากขึ้นและการใช้มาตรการเพื่อควบคุมการร่วงลงของตลาดหุ้นจีน

ด้วยเหตุนี้ ราคาทองคำจึงพุ่งสูงขึ้นจากแนวโน้มขาลงสองสัปดาห์ ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยราคาเปิดตลาดที่สูงกว่าราคาปิดตลาดในวันก่อนหน้าก่อนที่จะถอยกลับในภายหลัง

ทางฝั่งของ BTCUSD และ ETHUSD ขยับตัวสูงขึ้น หลังจากมีข่าวว่า Google มีการปรับเปลี่ยนนโยบายเพื่อสนับสนุน spot crypto ETFs

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) ถอยจากระดับสูงสุดในรอบสองเดือนที่ราวๆ $83.00
• ทองคำ (Gold) เพิ่มขึ้นมากกว่าครึ่งเปอร์เซ็นต์เพื่อตัดแนวโน้มขาลงสองสัปดาห์ก่อนหน้าที่ประมาณ $2,030
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบหกสัปดาห์ โดยยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนที่ประมาณ 103.50
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดผสม หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ปรับตัวลดลง ส่วน หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร ผันผวนในช่วงต้นวัน
• BTCUSD ยังมีทิศทางที่ไม่ชัดเจนที่ราวๆ $42,000 และ ETHUSD พุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยที่ระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ที่ราวๆ $2,260

ดอลลาร์อ่อนค่าลง สินค้าโภคภัณฑ์พุ่งสูงขึ้นในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์สำคัญ….

ตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อของ Fed ซึ่งก็คือดัชนีราคา PCE พื้นฐานของสหรัฐฯลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 33 เดือนในวันศุกร์ ซึ่งท้าทายแนวโน้มก่อนหน้านี้ที่บ่งชี้ถึงความล่าช้าในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และยังเป็นการทดสอบภาวะกระทิงของดอลลาร์สหรัฐฯในภายหลังอีกด้วย นอกจากนี้ ท่าทีระมัดระวังของนักลงทุนในตลาดก่อนการประชุม FOMC ในสัปดาห์นี้และรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯในเดือนธันวาคมก็จะท้าทายแรงเทซื้อดอลลาร์สหรัฐฯด้วยเช่นกัน

ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯขาดโมเมนตัมขาขึ้น ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางและการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีน หลังจากข่าวการชำระหนี้ของ Evergrade ยังส่งผลให้มีกระแสเงินไหลเข้าโดยตรงไปยัง XAUUSD โดยเฉพาะเมื่อทองคำทะลุจุดเบรกเอาต์ของรูปแบบกราฟสามเหลี่ยมสมมาตรอายุหกสัปดาห์ ในขณะเดียวกัน แม้ว่าความกลัวด้านอุปทานจากตะวันออกกลางจะผลักดันราคาพลังงานให้สูงขึ้น แต่ความหวาดกลัวด้านความต้องการพลังงานและท่าทีที่ระมัดระวังของตลาดจะทดสอบแรงเทซื้อน้ำมันดิบในที่สุด

อีกทางด้านหนึ่ง ความพยายามของจีนในการช่วยเหลือผู้จัดการหนี้เสียรายใหญ่และนโยบายที่เข้มงวดในการจำกัดการขายชอร์ต รวมไปถึงการประกาศกระตุ้นเศรษฐกิจได้ส่งสัญญาณถึงความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มมากขึ้นจากผู้เล่นในอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลก และเป็นที่น่าสังเกตว่า Janet Yellen รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯยังได้ช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตตลาดหุ้นจีนที่ส่งผลดีต่อแรงเทซื้อทองคำ โดยเธอยังกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้รับการยืนยันว่า ธนาคารจีนกำลัง “ไปได้ดี”

ในขณะเดียวกัน Lael Brainard อดีตผู้ว่าการ Fed และทิศทางปัจจุบันของสภาเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐฯ (NEC) ได้ทบทวนข้อกังวลเรื่องการลงจอดแบบนุ่มนวล (soft landing) ของสหรัฐฯอีกครั้ง ซึ่งเป็นการช่วยพยุงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังได้ออกมากล่าวว่าเศรษฐกิจ (สหรัฐฯ) นั้นมีทิศทางเป็นบวกและอัตราเงินเฟ้อกำลังทรงตัวอยู่ที่ 2% โดยสิ่งนี้จะทำให้แรงเทซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังมีความหวังขณะที่สัปดาห์สำคัญเริ่มต้นขึ้น

ในอีกทางหนึ่ง Klaas Knot ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมากล่าวในช่วงสุดสัปดาห์ว่าขณะนี้พวกเขามีแนวโน้มที่น่าเชื่อถือว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 2% ในปี 2025 Knot ยังกล่าวเสริมด้วยว่าสิ่งเดียวที่ขาดหายไปคือความเชื่อมั่นว่าการเติบโตของค่าจ้างนั้นจะมีการปรับให้เข้ากับอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง เขายังก็กล่าวอีกว่า "ทันทีที่ปริศนาชิ้นนั้นเข้าที่ เราจะสามารถลดอัตราดอกเบี้ยลงได้เล็กน้อย" ทั้งนี้ จากความคิดเห็นที่มีทิศทางไปในการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรปและความกังวลในช่วงแนวโน้มขาขึ้นดอลลาร์สหรัฐฯก่อนการรายงานข้อมูล/เหตุการณ์สำคัญยังทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD, USDJPY
• สัญญาณขายแรง: Crude Oil, US Dollar, GBPUSD
• สัญญาณซื้อ: BTCUSD, ETHUSD, Nasdaq, Gold
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯและปัจจัยเร่งปฏิกิริยาความเสี่ยงจะกระตุ้นโมเมนตัมของนักลงทุนในตลาด

ในวันจันทร์นี้มีแนวโน้มที่จะเป็นการเริ่มต้นสัปดาห์สำคัญที่น่าเบื่อ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูล/เหตุการณ์สำคัญกำหนดอยู่ในปฏิทินเศรษฐกิจ ถึงกระนั้น ปัจจัยเร่งปฏิกิริยาความเสี่ยงและดัชนีภาคการผลิตของ ธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งดัลลัสในเดือนมกราคมจะยังคงกระตุ้นโมเมนตัมของนักลงทุนในตลาด นอกจากนี้ เป็นที่คาดการณ์มากขึ้นว่านักลงทุนในตลาดจะเตรียมพร้อมรับการประชุม FOMC ที่กำลังมีทิศทางไปในนโยบายการเงินที่เข้มงวดในสัปดาห์นี้ และอาจแสดงให้เห็นการเคลื่อนตัวของเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่เป็นขาลงก่อนการประชุมนี้ ซึ่งเมื่อร่วมกับสภาวะการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงก็จะเป็นการหนุนสินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงิน AUD,NZD ต่อไป

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !