ล่าสุดตลาดยังคงซบเซานับจากช่วงวันพฤหัสบดีและช่วงเช้าวันศุกร์ เป็นผลให้ช่วงแนวโน้มขาขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯชะลอตัวหลังจากปรับตัวตามผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มสูงขึ้นในวันก่อนหน้า ถึงกระนั้นก็ตาม ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ยังคงพุ่งสูงขึ้นติดต่อกันเป็นรายสัปดาห์ที่สี่ ซึ่งยังช่วยหนุนสินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงิน AUD,NZD แม้ล่าสุดจะมีการปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
อีกทางด้านหนึ่ง มีการคาดการณ์ว่า คู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD อาจจะหยุดการร่วงลงสามสัปดาห์ติดต่อกัน ในขณะเดียวกันก็ขยายการฟื้นตัวในช่วงกลางสัปดาห์จากระดับต่ำสุดในรอบสามเดือน ส่วนทางด้าน คู่เงิน AUDUSD ยังคงถูกกดดันในสัปดาห์นี้ ขณะที่ คู่เงิน NZDUSD พุ่งสูงขึ้นครั้งแรกในรอบหกสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม คู่เงิน USDJPY ยังคงแข็งค่าขึ้นที่ระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์ ในขณะที่ คู่เงิน USDCAD ท้าทายแนวโน้มขาขึ้นในช่วงห้าสัปดาห์ก่อนการรายงานการจ้างงานที่สำคัญของแคนาดา อีกทั้ง การฟื้นตัวอย่างโดดเด่นของราคาน้ำมันดิบซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของแคนาดายังทำให้คู่เงิน Loonie เตรียมพร้อมสำหรับช่วงแนวโน้มขาลง
ทั้งนี้ ราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจของลูกค้ารายใหญ่ที่สุดอย่างจีนและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากมีโอกาสเพิ่มขึ้นที่จะได้เห็นความล่าช้าในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed
อีกทางด้านหนึ่ง ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ BTCUSD เตรียมพร้อมสำหรับการพุ่งสูงขึ้นรายสัปดาห์ที่มากที่สุดในปี 2024 ส่วนทางฝั่ง ETHUSD ยังคงปรับตัวขึ้น ท่ามกลางความคึกคักในตลาดคริปโต
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
แม้ว่านักลงทุนเกือบ 50% จะคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนเมษายน แต่ Pierre Wunsch สมาชิกคณะกรรมการบริหารของ ECB ได้ออกมากล่าวว่า "เป็นผลดีในการรอให้ข้อมูลค่าแรงมีความชัดเจนกว่าเดิม" สำหรับการดำเนินการดังกล่าวยังส่งผลให้ค่าเงินยูโร (EUR) ยังคงแข็งค่าแม้ดอลลาร์สหรัฐฯจะมีการฟื้นตัว นอกจากนี้ Philip Lane หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ECB ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินกระบวนการลดอัตราเงินเฟ้อต่อไปเพื่อยืนยันการปรับลดดอกเบี้ย ในขณะเดียวกัน Robert Holzmann ผู้กำหนดนโยบายของ ECB ได้ระบุว่ามีโอกาสที่ ECB จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ในทางกลับกัน ดอลลาร์สหรัฐฯได้รับแรงหนุนจากความคิดเห็นเชิงบวกจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯที่เบาบางลง ขณะเดียวกันก็ปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังที่พุ่งสูงขึ้น
ทางฝั่งของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งริชมอนด์ Thomas Barkin ได้ออกมากล่าวว่า เขามีความระมัดระวัง เกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเปลี่ยนผ่านปีเนื่องจากข้อมูลเหล่านั้นอาจมีความคลาดเคลื่อนได้ นอกจากนี้ ยังกล่าวเสริมว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สามารถใช้เวลานานขึ้นในการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยได้ ในทางกลับกัน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งบอสตัน Susan Collins กล่าวว่า เธอสนับสนุนการคาดการณ์จาก dot plot ล่าสุดของ FOMC ซึ่งชี้ให้เห็นการลดอัตราดอกเบี้ย 75 จุดฐานในปี 2024
ไม่เพียงแต่เจ้าหน้าที่ของ Fed เท่านั้น แต่ Janet Yellen รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯก็มีมุมมองต่อเศรษฐกิจเชิงบวกเช่นกัน ซึ่งช่วยขจัดความกังวลเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ รวมทั้งมีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวลดลงเล็กน้อย
เป็นที่น่าสังเกตว่าสภาวะระมัดระวังของตลาดก่อนการปรับแก้ค่าดัชนี CPI ของสหรัฐฯในวันนี้ดูเหมือนจะท้าทายภาวะกระทิงของดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประธาน Fed Jerome Powell กล่าวถึงสิ่งเดียวกันนี้เป็นครั้งแรกในการแถลงการณ์ครั้งล่าสุดของเขา นอกจากนี้ Powell ยังหวังว่าจะได้เห็นการยืนยันความคืบหน้าของอัตราเงินเฟ้อซึ่งจะสนับสนุนการพูดคุยเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุด อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถตัดเรื่องเซอร์ไพรส์ใดๆออกไปได้ ซึ่งสิ่งนี้อาจผลักดันการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปหรืออาจหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ได้เช่นกัน
ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แนะนำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) พิจารณายุติการควบคุมอัตราผลตอบแทน (YCC) และการซื้อสินทรัพย์จำนวนมากในขณะนี้ ซึ่งสถานการณ์นี้ได้ท้าทายช่วงแนวโน้มขาขึ้นของคู่เงิน USDJPY ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการ BoJ Kazuo Ueda ได้ออกมาปกป้องแรงเทขาย JPY โดยระบุว่า โอกาสที่นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายจะยังคงดำเนินต่อไปนั้นเป็นไปได้สูง โดยสิ่งนี้ยังเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้คู่เงิน USDJPY ปรับตัวสูงขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อย่าง Jonathan Haskel และ Catherine Mann ได้สนับสนุนนโยบายการเงินที่มั่นคง โดยหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในขณะที่รอสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ โดยจุดยืนนี้เมื่อร่วมกับการฟื้นตัวของเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้ส่งผลให้คู่เงิน GBPUSD ที่เคยพุ่งสูงขึ้น 2 วันติดต่อกันกลับมามีราคาเสนอซื้อเป็นบวกอีกครั้งในวันนี้
ทางด้านคู่เงิน NZDUSD พุ่งสูงขึ้นมากที่สุดในบรรดาคู่สกุลเงิน G10 เนื่องจากโอกาสในการเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ในเดือนกุมภาพันธ์ได้รับการสนับสนุน ขณะที่ โมเมนตัมขาขึ้นยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ซึ่งช่วยให้คู่เงิน AUDUSD ขยับตัวสูงขึ้น แม้ว่า Guy Bullock ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะแสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อและส่งสัญญาณว่าอาจลดอัตราดอกเบี้ยหากการบริโภคชะลอตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม
ในอีกทางหนึ่ง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงปลายเดือนและส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐฯได้ส่งสัญญาณการจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จีน ในขณะที่ประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซียแสดงความสนใจที่จะยุติสงครามหากยูเครนยอมจำนน ซึ่งในทางกลับกันสถานการณ์เหล่านี้ได้บ่งบอกถึงความตึงเครียดระดับโลกที่ยังคงดำเนินต่อไป นอกจากนี้ ความวุ่นวายในทะเลแดงยังคงเป็นประเด็นร้อนแรง ทั้งทางฝั่งตะวันตกและทางฝั่งตะวันออกต่างต่อสู้เพื่อควบคุมเส้นทางการขนส่งสินค้าทางเรือที่พลุกพล่านที่สุดในโลก
นอกเหนือไปจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลให้เกิดวิกฤตการณ์ด้านอุปทานแล้ว สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ยังได้คาดการณ์ความต้องการพลังงานที่สูงขึ้นในปี 2024 ที่นำโดยการบริโภคน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของอินเดีย โดยสิ่งนี้เป็นแรงหนุนให้แรงเทซื้อน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นรายวันมากที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสังเกตคือ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงเช้าของวันศุกร์นี้ เนื่องจากนักลงทุนกำลังมองหาสัญญาณเพิ่มเติมเพื่อยืนยันแนวโน้มขาขึ้น โดยเฉพาะท่ามกลางสถานการณ์ที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงมีทิศทางที่ไม่แน่นอนเนื่องจากมีสัญญาณที่หลากหลายเกี่ยวกับจีนร่วมกับสัญญาณทางเทคนิคที่เป็นขาลงและดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้นได้ท้าทายช่วงแนวโน้มขาขึ้นของ XAUUSD ทั้งนี้ แรงเทขายโลหะมีค่ายังคงระมัดระวังท่ามกลางการความต้องการทองคำทางกายภาพและการซื้อทองคำของธนาคารกลางที่เพิ่มมากขึ้น
ปฏิทินเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะยังคงเบาบางในช่วงที่เหลือของวันศุกร์ โดยมีเพียงรายงานการจ้างงานของแคนาดารายเดือนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม อาจได้เห็นสภาวะการพร้อมรับเสี่ยงเล็กน้อยในภายหลัง เนื่องจากจีนเข้าสู่ช่วงวันหยุดปีใหม่ทางจันทรคติ และอาจเปิดโอกาสให้ความเชื่อมั่นที่มีทิศทางดีขึ้นได้ใช้โอกาสสุดท้าย ถึงกระนั้นก็ตาม ความคิดเห็นที่แสดงถึงการหนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลายแห่งและปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์อาจทดสอบช่วงขาขึ้นของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้ด้วยเช่นกัน
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !