เช้านี้ ตลาดกลับมาปิดรับความเสี่ยงอย่างหนักหน่วง เนื่องจากนักเทรดในเอเชีย/ยุโรปตอบรับตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นในเดือนเมษายน รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในอังกฤษและจีน อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นที่หลากหลายของผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้กดดันมูลค่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแม้ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2002
ทั้งนี้ เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นไม่สามารถฉุดให้ราคาทองร่วงลงได้เนื่องจากผลตอบแทนยังคงอ่อนค่าอยู่ ขณะที่สกุลเงินที่มีความเสี่ยงและราคาน้ำมันกลับโดนพิษค่าเงินดอลลาร์ไปเต็มๆ
การคาดการณ์เงินเฟ้อที่ลดลงจากออสเตรเลียเป็นปัจจัยลบต่อ AUDUSD ขณะที่ GDP ของสหราชอาณาจักรที่ปรับตัวลงสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2022 และข้อมูลสำคัญอื่นๆ ประจำเดือนนี้ได้ฉุดให้ GBPUSD เข้าสู่ระดับต่ำสุดเดิมในรอบ 2 ปี
ส่วนคริปโตฯ ก็ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างเสี่ยง ขณะที่หุ้นเอเชียและยุโรปยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีการปรับลงตามหุ้นสหรัฐไปติดๆ
ขณะที่การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในตลาดจะช่วยดันให้สินทรัพย์ปลอดภัยมีมูลค่าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอลลาร์สหรัฐและเงินเยนญี่ปุ่น แต่นักลงทุนจะต้องเฝ้าจับตาตัวเลข PPI ล่าสุดของสหรัฐซึ่งจะมีความสำคัญต่อทิศทางตลาดต่อไป
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์หลักหลายรายการ ดังนี้:
จาก CPI พื้นฐานและ CPI ทั่วไปของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ มีแนวโน้มที่ตลาดจะอยู่ในเกณฑ์ลบอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ความวิตกเกี่ยวกับข่าวจากประเทศจีนซึ่งเผยว่าสถานการณ์โควิดไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และการขยายการล็อกดาวน์ในปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ รวมถึงวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ได้ตอกย้ำความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว และหนุนสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี
ตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่แข็งค่าขึ้นของธนาคารกลางแห่งนิวซีแลนด์ (RBNZ) ไม่สามารถช่วยหนุนคู่เงิน NZDUSD ได้ ขณะที่ AUDUSD เองก็ไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ USD ปรับตัวขึ้นอย่างหนัก นอกจากนี้ GBPUSD ยังได้รับผลกระทบจากตัวเลขที่ออกมาในเกณฑ์ลบของอังกฤษ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกังวลด้านเศรษฐกิจของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ส่วนราคาน้ำมันก็ได้มีการปรับตัวลดลงท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นและประเด็นการส่งออกน้ำมันจากอิหร่าน อีกทั้งยังมียอดสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน ทองคำก็ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน และเนื่องจากทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในรูปแบบเดิมๆ นั่นเอง
ความกังวลที่เพิ่มขึ้น รวมถึงรายงานความมั่นคงทางการเงินรายครึ่งปีของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็นปัจจัยฉุดสกุลเงินคริปโต อีกทั้งยังมีข่าวที่ว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ของสหรัฐอเมริกาได้มีข้อเสนอกฎเกณฑ์เพิ่มเติมสำหรับ Stablecoin
โดยภาพรวมขณะนี้ การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในตลาดได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินอย่างต่อเนื่อง
เมื่อพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและผลกระทบเชิงลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อธนาคารกลางเร่งรัดนโยบายการเงินแบบหดตัว เรามองว่าดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐ (PPI) ของสหรัฐในเดือนเมษายนที่ผ่านมาจะเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามอง
หากอัตราเงินเฟ้อพุ่งตามตัวเลข CPI ไปติดๆ ก็จะยิ่งหนุนให้เงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ น้ำมันดิบ และสกุลเงินที่มีความเสี่ยงอย่างหนัก
ทำกำไรจากความเคลื่อนไหวในตลาดด้วยระบบ Copy Trade ของ MTrading พร้อมเงื่อนไขชั้นนำ:
คัดลอกการเทรดของนักเทรดมือโปรโดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ ด้วยค่าสเปรด 0 ผ่านบัญชี M.Pro!
ขอให้ท่านโชคดีในการเทรด!