ตลาดแสดงให้เห็นถึงสภาวะทรงตัวในช่วงเช้าวันพุธ เนื่องจากตลาดกำลังรอรายงานการประชุมของ Fed ด้วยเหตุนี้ สถานการณ์ความเชื่อมั่นที่สั่นคลอนก่อนหน้านี้จึงผ่อนคลายลงและเป็นผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้ฟื้นตัวขึ้น อีกทั้งยังส่งผลให้จำกัดช่วงแนวโน้มขาลงของราคาทองคำขณะที่แตะเส้น 200-DMA ที่ระดับต่ำสุดในรอบเจ็ดสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม คู่เงิน NZDUSD พุ่งสูงขึ้นมากที่สุดแม้ว่า RBNZ จะคงอัตราดอกเบี้ยหลักไว้เท่าเดิม ส่วนคู่เงิน GBPUSD ไม่ได้รับผลจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงและยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า ในอีกทางหนึ่ง คู่เงิน EURUSD และคู่เงิน AUDUSD ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯท่ามกลางความหวังที่ว่าจีนจะสามารถจัดการกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยได้ เช่นเดียวกับความหวังที่ว่า ECB จะสามารถดำเนินนโยบายการเงินที่ดุเดือดต่อไปท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่มีทิศทางไปในแง่บวกมากขึ้นเมื่อเร็วๆนี้
ถึงกระนั้น ราคาน้ำมันดิบไม่ได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางความหวาดกลัวว่าอุปสงค์จะลดลง ในขณะเดียวกัน คู่เงิน USDCHF อยู่ในสภาวะทรงตัว ขณะที่คู่เงิน USDCNY ยังคงมีราคาเสนอซื้อ (Bid) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ระดับสูงสุดประจำปี
ส่วนทางฝั่งของ BTCUSD และ ETHUSD ลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ ยังคงมีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดคริปโต
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
หลังจากการเผยแพร่ข้อมูล/เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจต่างๆมากมาย นักลงทุนต่างยังคงมีท่าทีระมัดระวังและผ่อนคลายการติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดของวันก่อนหน้า โดยคาดการณ์ผลกระทบเชิงลบต่อดอลลาร์สหรัฐฯจากรายงานการประชุม FOMC ของวันนี้ ทั้งนี้แนวโน้มที่จะสนับสนุนความเชื่อมั่นของตลาดก็คือความเฉื่อยชาของ RBNZ และอัตราเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงของสหราชอาณาจักรซึ่งจะเป็นการท้าทายการดำเนินนโยบายการเงินที่แข็งกร้าวของธนาคารกลางอีกด้วย นอกจากนี้ ทัศนคติที่ค่อนข้างเป็นบวกต่อญี่ปุ่นและการลดลงของความคาดการณ์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในจีนและเยอรมนีได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความเชื่อมั่นในทิศทางบวก
ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และค่าเงิน AUD,NZD ฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มขาขึ้นของตลาดยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ดังนั้นนักลงทุนจึงควรรอรายงานการประชุม FOMC เพื่อทราบทิศทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
แม้ว่าข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯจะเผยแพร่ออกมาในเร็วๆนี้ แต่ความสนใจหลักจะมุ่งเน้นไปที่รายงานการประชุม FOMC ของเดือนสิงหาคมที่ผู้กำหนดนโยบายกล่าวถึงการหยุดชั่วคราวของวงจรการยับยั้งการเติบโตของอัตราเงินเฟ้อ ถ้าหากรายละเอียดเหล่านี้ยังมีทิศทางที่ไม่ชัดเจนและแสดงถึงความตั้งใจของ Fed ที่จะดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดซึ่งส่งผลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน ดอลลาร์สหรัฐฯอาจกลับเป็นช่วงขาขึ้นและส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้เช่นกัน
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !