GBPUSD ปรับตัวสูงขึ้นผ่านระดับ 1.2800 ท่ามกลางความสนใจที่มุ่งไปยังสถานการณ์การเมืองในสหราชอาณาจักรและการแถลงนโยบายของประธาน Fed Powell

ความเชื่อมั่นของตลาดยังคงมีทิศทางเป็นบวกเล็กน้อยหลังจากมีความผันผวนในวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่ นักลงทุนในตลาดต่างกำลังรอการแถลงนโยบายการเงินประจำทุก 2 ปีของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) Jerome Powell นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นเชิงบวกของตลาดล่าสุดแม้จะยังมีท่าทีระมัดระวังอาจเป็นผลมาจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ซบเซาซึ่งมีการเผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้และการที่ Powell ไม่สามารถโน้มน้าวตลาดถึงจุดยืนกำดำเนินนโยบายการเงินที่แข็งกร้าวของ Fed รวมไปถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า พาดหัวข่าวที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงเชิงลบจากตะวันออกกลางและสหรัฐอเมริการ่วมกับความวิตกกังวลก่อนการรายงานเหตุการณ์สำคัญยังคงท้าทายความเชื่อมั่นของตลาด

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ยังคงอยู่ในแนวรับจากการดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อวานนี้ ในขณะที่คู่สกุลเงินหลักยังคงขาดทิศทางที่ชัดเจนก่อนการรายงานตัวชี้วัดสำคัญประจำสัปดาห์นี้ โดยคู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD เป็นคู่เงินที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เนื่องจากฝั่งเทรนด์ขาลงยังไม่มีความชัดเจนที่จะกลับมาควบคุมตลาดอีกครั้ง แม้จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงจากยูโรโซนและสหราชอาณาจักร รวมไปถึงความวิตกกังวลทางการเมือง ส่วนทางด้านคู่เงิน USDJPY กลับมายืนเหนือระดับ 161.00 อีกครั้ง หลังจากยุติการร่วงลง 2 วันติดต่อกันในวันก่อนหน้า ขณะที่ คู่เงิน USDCAD ยังคงอ่อนแรง แม้ราคาน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของแคนาดาจะปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน

อีกทางด้านหนึ่ง คู่เงิน AUDUSD มีราคาเสนอซื้อเป็นบวก โดยพลิกกลับการร่วงลงในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์จากจุดสูงสุดในรอบ 6 เดือน ทว่า คู่เงิน NZDUSD ยังคงอ่อนค่าลงหลังจากกลับตัวจากจุดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังชะลอตัวลงจากการปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้า ก่อนการรายงานข้อมูลปริมาณคงคลังน้ำมันดิบสหรัฐฯและข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ ท่ามกลางปัจจัยหนุนที่มีการรายงานในหลากหลายทิศทาง อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น ขณะที่เหล่านักลงทุนมุ่งหน้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเวลาที่ตลาดมีความไม่แน่นอน

เมื่อพูดถึงสกุลเงินดิจิทัล แรงเทซื้อ Bitcoin มองข้ามการไหลออกของเงินทุนจากตลาดแลกเปลี่ยนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2023 และการโอน Bitcoin ของรัฐบาลเยอรมัน ท่ามกลางความคาดหวังเชิงบวกต่อการเปิดตัว spot ETH ETF นอกจากนี้ แผนการของพรรครีพับลิกันในการปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับตลาดคริปโตในแถลงการณ์ล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ยังสนับสนุนการฟื้นตัวของ BTCUSD และ ETHUSD อีกด้วย

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันดิบ WTI พยายามรักษาระดับที่ประมาณ $82.10 หลังจากร่วงลงในช่วงสองวันที่ผ่านมาติดต่อกัน
• ทองคำ (Gold) พลิกกลับการร่วงลงเมื่อช่วงเริ่มต้นสัปดาห์ โดยปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยที่ประมาณ $2,365
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆที่ประมาณ 105.00 หลังจากพลิกกลับจากระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ในวันก่อนหน้า
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดผสม หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร ยังขาดทิศทางที่ชัดเจนในช่วงเปิดการซื้อขาย
• BTCUSD และ ETHUSD รักษาระดับการดีดตัวขึ้นของวันก่อนหน้า ในขณะที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 1.5% ที่ประมาณ $57,700 และ $3,090 ตามลำดับ

ความผันผวนของตลาดส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯค่อยๆฟื้นตัวขึ้น...

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐฯเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลยังคงทรงตัวหลังจากที่ปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา การที่ดอลลาร์ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้สะท้อนถึงความไม่มั่นใจของตลาดต่อความเชื่อมั่นเชิงบวกของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯส่วนใหญ่ที่ถดถอยลง ถึงกระนั้น ตัวเลขสินเชื่อเพื่อการบริโภคของสหรัฐฯประจำเดือนพฤษภาคมกลับขยายตัวอย่างโดดเด่น ในขณะที่แนวโน้มการจ้างงานในเดือนมิถุนายนกลับลดลง อีกทั้ง ผลสำรวจการคาดการณ์ของผู้บริโภคโดยธนาคารกลางสหรัฐฯประจำนิวยอร์กได้เผยตัวเลขการคาดการณ์เงินเฟ้อในอีก 1 ปีข้างหน้าที่ปรับลดลงเหลือ 3.0% จาก 3.2% นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่ Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะชนะการเลือกตั้งทั่วไป รวมถึงตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อที่เผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ท้าทายแรงเทซื้อดอลลาร์สหรัฐฯด้วยเช่นกัน

ในขณะเดียวกัน ภาวะ consolidation ก่อนการรายงานตัวชี้วัดสำคัญของสหรัฐฯ ประกอบกับพาดหัวข่าวความเสี่ยงเชิงลบยังช่วยให้ดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) แข็งค่าขึ้น โดยปัจจัยที่ท้าทายความเชื่อมั่นของตลาดยังประกอบไปด้วย ความไม่พอใจของสหรัฐฯต่อความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียและรัสเซีย และความกังวลว่าสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนและอิสราเอล-ฮามาสจะไม่มีการหยุดยิง ซึ่งยังรวมไปถึงความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน นอกจากนี้ ความพ่ายแพ้ทางการเมืองในยุโรปและความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสหราชอาณาจักร Keir Starmer ที่บ่งชี้ถึงสภาพเศรษฐกิจของอังกฤษที่ย่ำแย่ ยังส่งผลกระทบต่อสภาวะการพร้อมรับความเสี่ยงของตลาดและเปิดโอกาสให้ดอลลาร์สหรัฐฯสามารถฟื้นตัวขึ้นจากการอ่อนค่าลงล่าสุด

นอกเหนือไปจากความคิดเห็นเชิงลบจากนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรแล้ว การปรับลดลงของยอดขายรวมในสหราชอาณาจักรประจำเดือนมิถุนายนและแถลงการณ์ในหลากหลายทิศทางจากผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ยังท้าทายแรงเทซื้อคู่เงิน GBPUSD อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นเชิงบวกระลอกใหม่ในอังกฤษ อันเนื่องมาจากชัยชนะของพรรคแรงงานที่ได้ที่นั่งส่วนใหญ่ ประกอบกับข้อสงสัยเกี่ยวกับจุดยืนในการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed ยังช่วยหนุนคู่เงิน Cable อีกด้วย

ในอีกทางหนึ่ง คู่เงิน EURUSD กำลังปรับตัวสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนของยูโรโซน (Eurozone Sentix Investor Confidence) ประจำเดือนกรกฎาคมที่ปรับลดลง ในขณะที่ให้ความสนใจเพียงเล็กน้อยต่อการคัดค้านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Klaas Knot ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB)

นอกจากนี้ คู่เงิน NZDUSD ยังคงปรับตัวลง ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่ผันผวนก่อนการประกาศผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ในวันพุธที่จะถึงนี้ ซึ่งคณะกรรมการเงา (shadow board) ได้ตอกย้ำการคาดการณ์ของตลาดว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการประชุมครั้งนี้ ในทางกลับกัน คู่เงิน AUDUSD ไม่ตอบสนองต่อดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของออสเตรเลีย (Westpac Aussie Consumer Sentiment) ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในจีน แม้ดอลลาร์สหรัฐฯจะมีการฟื้นตัวขึ้นก็ตาม

ส่วนทางด้านคู่เงิน USDCAD ชะลอตัวจากการดีดตัวสูงขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการฟื้นตัวจากแนวรับที่เพิ่มสูงขึ้นอายุ 6.5 เดือน โดยปรับตัวลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน แม้ตัวเลขการจ้างงานของแคนาดาจะแตกต่างจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งยังท้าทายการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นของธนาคารกลางแคนาดา (BoC) นอกจากนี้ คู่เงิน Loonie ยังเพิกเฉยต่อราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงอีกด้วย

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบยังคงถูกกดดันเป็นวันที่สามติดต่อกัน ท่ามกลางการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์สหรัฐฯ และปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบียไปยังจีนที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากการปรับลดราคา นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังไม่ตอบสนองต่อความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในตะวันออกกลาง ขณะที่ตลาดก็เตรียมรับการรายงานข้อมูลปริมาณคงคลังน้ำมันดิบสหรัฐฯประจำสัปดาห์ที่จะประกาศโดยสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) และยังเป็นที่น่าสังเกตอีกว่า สำนักข่าวรอยเตอร์มีการรายงานว่า การส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบียไปยังจีนทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ซึ่งในอีกทางหนึ่ง ผู้นำกลุ่มฮามาสยังออกมากล่าวโทษคำสั่งอพยพชาวอิสราเอลออกจากพื้นที่ ว่าเป็นการปิดกั้นโอกาสในการบรรลุความคืบหน้าในการเจรจายุติการสู้รบ

อีกทางด้านหนึ่ง ราคาทองคำดีดตัวขึ้นโดยพลิกกลับการร่วงลงในช่วงต้นสัปดาห์ ท่ามกลางตลาดที่ผันผวน ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทรดทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิม แม้ว่าการหยุดซื้อทองคำของจีนเป็นระยะเวลา 2 เดือนจะทดสอบช่วงแนวโน้มขาขึ้นของ XAUUSD ก็ตาม

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD, USDJPY, US Dollar, Silver
• สัญญาณขายแรง: AUDUSD, NZDUSD, GBPUSD
• สัญญาณซื้อ: BTCUSD, ETHUSD, Nasdaq, Gold, DJI30, USDCNH
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, EURUSD, Crude Oil

ทุกสายตาจับจ้องไปที่ Powell และ Yellen...

เนื่องจาก Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ไม่สามารถหนุนแรงเทซื้อดอลลาร์สหรัฐฯได้ ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ซบเซา เป็นผลให้เทรดเดอร์ที่ทำการซื้อขายดอลลาร์สหรัฐฯเกิดการพิจารณาทิศทางความเชื่อมั่นเชิงบวกของเขาด้วยความระมัดระวังก่อนที่จะกลับมาดำเนินการซื้อดอลลาร์สหรัฐฯอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ Janet Yellen ประสบความสำเร็จในการสนับสนุนการฟื้นตัวของดอลลาร์สหรัฐฯ และยังสามารถสนับสนุนความเชื่อมั่นเชิงบวกของประธาน Fed Powell ได้อีกเช่นกัน หากเธอเลือกที่จะทำเช่นนั้น นอกเหนือไปจากนั้น สภาวะ consolidation ของดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯและการรายงานปัจจัยเสี่ยงต่างๆก็อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯชะลอการร่วงลงจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้อีกด้วย

โดยสรุป Powell และ Yellen ต่างต้องแสดงความเชื่อมั่นเชิงในทิศทางบวกเพื่อพยุงการฟื้นตัวของดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งในอีกทางหนึ่งจะเป็นการท้าทายสินค้าโภคภัณฑ์และสกุลเงินกลุ่ม Antipodeans ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของตลาดต่อคู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD อาจแตกต่างกันไป เนื่องจากปัจจัยทางการเมือง ในขณะที่ คู่เงิน USDJPY อาจสามารถรักษาระดับแรงเทซื้อไว้ได้ เนื่องจากเทรดเดอร์ต่างกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ)

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !