ความเชื่อมั่นของตลาดชะลอตัวลงในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์ ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนและท่าทีที่ระมัดระวังของนักลงทุนก่อนการรายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯในวันพุธ สถานการณ์เดียวกันนี้ ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯสามารถฟื้นตัวหลังจากการร่วงลงเมื่อเริ่มต้นสัปดาห์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ถดถอยลงและการประชุมของ Fed
ถึงแม้ดอลลาร์สหรัฐฯยังไม่แน่ชัดที่จะปรับตัวลดลง แต่คู่เงิน EURUSD คู่เงิน GBPUSD และค่าเงิน AUD,NZD ยังคงผันผวน เนื่องจากนักลงทุนกลัวการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นจากธนาคารกลางอื่นๆนอกเหนือไปจาก Fed เช่นเดียวกับปัญหาทางเศรษฐกิจนอกสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบดูเหมือนจะไม่มีความเคลื่อนไหวมากนักหลังจากร่วงลงมากที่สุดในรอบเจ็ดสัปดาห์ในวันก่อนหน้า โดยอาจเชื่อมโยงกับหัวข้อข่าวที่เกี่ยวกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในทะเลแดงและจีน อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากเหล่านักลงทุนต่างมุ่งมาที่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำในช่วงเวลาที่ตลาดมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ตกต่ำลงรวมถึงหุ้นที่แข็งค่าขึ้น
โดยหุ้นในวอลล์สตรีทและโซนเอเชียแปซิฟิกปิดในแดนบวก แต่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของหุ้นสหรัฐฯยังคงเป็นบวกเล็กน้อย
ในอีกด้านหนึ่ง แรงเทซื้อ BTCUSD และ ETHUSD ชะลอตัวหลังจากการพุ่งสูงขึ้นอย่างโดดเด่นในวันก่อนหน้า เนื่องจากท่าทีประธาน SEC ของสหรัฐฯได้ส่งผลกระทบต่อความหวังเกี่ยวกับการอนุมัติ spot ETF
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ผันผวนในวันอังคารและการประชุมของ Fed ส่งผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสำนักงาน Conference Board แห่งสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยข้อมูลแนวโน้มการจ้างงานสำหรับเดือนธันวาคมซึ่งได้สนับสนุนความเชื่อมั่นก่อนหน้านี้เกี่ยวกับตลาดแรงงานสหรัฐฯโดยเพิ่มขึ้นเป็น 113.15 จาก 113.05 (แก้ไขจาก 112.48) อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อหนึ่งปีของธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งนิวยอร์กได้ปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2021 เหลือ 3.0% จากตัวเลขก่อนหน้าที่ 3.4% โดยไม่ใช่แค่การคาดการณ์เงินเฟ้อหนึ่งปีเท่านั้น แต่การลดลงของการคาดการณ์เงินเฟ้อสามปีและห้าปีก็มีส่วนทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงเช่นกัน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯยังพยายามลดความกังวลด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯและรักษาระดับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะอ่อนตัวลงก็ตาม ถึงกระนั้น ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯประจำแอตแลนตา Raphael Bostic ได้ออกมากล่าวว่า Fed สามารถปล่อยให้นโยบายการเงินที่เข้มงวดยังคงทำงานต่อไปเพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกันก็แนะนำให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเบื้องต้นในไตรมาสที่ 3 ด้วยเช่นกัน ซึ่งในทางกลับกัน ผู้ว่าการ Fed Michelle Bowman ได้แสดงเจตจำนงที่จะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากความคืบหน้าของสภาวะเงินเฟ้อชะลอตัวลง แต่ทั้งนี้เธอยังกล่าวถึงโอกาสที่เงินเฟ้อจะยังคงลดลงต่อไปโดยไม่ต้องมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
นอกเหนือไปจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ไม่น่าประทับใจและการพูดคุยกันในหลากหลายทิศทางของ Fed แล้ว การมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงในทะเลแดงและการขาดประเด็นเชิงลบที่สำคัญจากจีนหลังจากการสูญเสียเป็นเวลาสองวันติดต่อกันเกี่ยวกับความกังวลด้านหนี้สินนั้นยังสนับสนุนความเชื่อมั่นของตลาดอีกด้วย และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตัวเลขค่าดัชนีดาวโจนส์ออกมาพร้อมกับการรายงานที่ชี้ให้เห็นว่าสายการเดินเรือบางแห่งได้บรรลุข้อตกลงกับกองกำลังฮูตีเพื่อป้องกันไม่ให้เรือของพวกเขาถูกโจมตีในทะเลแดง ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาวิกฤติอุปทานได้ไม่มากก็น้อย
โดยเป็นที่สังเกตว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อสู้กับสภาวะเงินเฟ้อ และด้วยเหตุนี้จึงสามารถรักษาระดับแรงเทซื้อคู่เงิน GBPUSD ได้ แม้ว่าจะขาดโมเมนตัมขาขึ้นหลังจากอยู่ในช่วงแนวโน้มขาขึ้นสี่วัน
และเมื่อพูดถึงข้อมูลเศรษฐกิจในสหราชอาณาจักร การเติบโตของยอดขายปลีกแบบ Like-for-Like ลดลงเหลือ 1.9% YoY ในเดือนธันวาคม เมื่อเทียบกับการรายงานก่อนหน้าที่ 2.6% ในขณะที่ข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตร Barclays ชี้ให้เห็นการเติบโต 2.3% YoY เมื่อเทียบกับการรายงานครั้งก่อนที่ 2.9%
ทางฝั่งของยูโรโซน ความเชื่อมั่นนักลงทุน Sentix ปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกันอยู่ที่ -15.8 ในเดือนมกราคมจากการรายงานก่อนหน้านี้ที่ -16.8 ในขณะเดียวกัน ยอดขายปลีกของยูโรโซนกลับทรุดตัวลง -1.1% ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบกับ -0.8% ในการรายงานก่อนหน้าและ -1.5% ตามที่ตลาดคาดการณ์ และดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจสำหรับยูโรโซนเพิ่มขึ้นเป็น 96.4 ในเดือนธันวาคม เมื่อเทียบกับการรายงานก่อนหน้านี้ที่ 94.0 ด้วยเหตุนี้ สถานการณ์ของคู่เงิน EURUSD จึงยังคงไม่แน่นอนในขณะที่กำลังพุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยที่ประมาณ 1.0960
อีกทางด้านหนึ่ง ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นในเดือนธันวาคมลดลงเหลือ 2.4% YoY จากการรายงานก่อนหน้านี้ที่ 2.6% ในขณะที่ตัวเลขค่าดัชนี CPI ที่ไม่รวมอาหารและพลังงานก็ลดลงเหลือ 3.5% YoY จากการรายงานก่อนหน้านี้ที่ 3.6% ซึ่งกระตุ้นแรงเทขายคู่เงิน USDJPY แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯจะขาดโมเมนตัมในการฟื้นตัวก็ตาม
ทั้งนี้ แม้ว่ายอดขายปลีกของออสเตรเลียจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 2.0% YoY ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 1.2% และลดลง 0.2% จากการรายงานก่อนหน้า แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อข้อมูลดังกล่าวรวมเข้ากับข้อมูลที่อยู่อาศัยของออสเตรเลียที่ไม่น่าประทับใจนักและความกังวลด้านหนี้สินของจีนก็ได้กระตุ้นช่วงแนวโน้มขาขึ้นของคู่เงิน AUDUSD ด้วยเช่นกัน
เมื่อกล่าวถึงทางฝั่งของคริปโต ความคึกคักเกี่ยวกับการอนุมัติ spot ETF ได้ถูก Gary Gensler ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐฯ (SEC) ฉุดร่วงลง เมื่อเขาออกมาทวีตว่า การลงทุนในคริปโตนั้น 'มีความเสี่ยงสูงมาก' Gensler ยังกล่าวเสริมว่า “บริษัทที่เสนอการลงทุนคริปโตอาจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย”
หลังจากได้เห็นตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีที่ตกต่ำลงในชั่วโมงที่ผ่านมา ข้อมูลดุลการค้าของแคนาดาและสหรัฐฯร่วมกับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ NFIB ของสหรัฐฯจะสร้างแรงกระตุ้นให้นักลงทุนในระหว่างวัน อย่างไรก็ตาม ความสนใจส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่การแถลงการณ์จากผู้ว่าการธนาคารกลางสำคัญๆเพื่อยืนยันการออกจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดทั่วโลกในปี 2024 ซึ่งจะช่วยปรับปรุงความเชื่อมั่นและอาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !