แม้ตลาดจะเริ่มปรับตัวขึ้น แต่อารมณ์นักลงทุนยังส่อแววกังวัลก่อนประชุมสำคัญของแบงก์ชาติที่มีแนวโน้มจะออกมาประกาศใช้นโยบายการเงินในเชิง Hawkish
ความเชื่อมั่นที่หลากหลายของนักลงทุน รวมถึงการซื้อพันธบัตรของจีนและญี่ปุ่นเพื่อกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (บอนด์ยีลด์) กดดันให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังมีการฟื้นตัวได้ไม่นาน
คู่เงิน EURUSD รวมถึงราคาทองคำได้รับอานิสงค์จากการอ่อนค่าของ USD ขณะการปรับตัวขึ้นของน้ำมันดิบค่อนข้างมีอุปสรรคท่ามกลางความกังวลด้านการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่วนสกุลเงินที่มีความเสี่ยงหลายๆ ตัวยังคงอยู่ในขาลงต่อขณะที่นักเทรดเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ย
BTCUSD และ ETHUSD กลับไม่สามารถปรับตัวขึ้นสวนทางกับดอลลาร์ที่อ่อนค่าได้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยง
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์หลักหลายรายการ ดังนี้:
ช่วงเช้าวันนี้ ตลาดการเงินทั่วโลกเริ่มมีการฟื้นตัวเนื่องจากบอนด์ยีลด์ที่อ่อนค่าลง รวมถึงข้อมูลจากจีนที่ออกมาในเกณฑ์บวก ซึ่งเป็นแรงหนุนให้เหล่านักเทรดรายวันที่กำลังเตรียมพร้อมรับเหตุการณ์สำคัญวันนี้ โดยเรามองว่าการประชุมแบบเซอร์ไพรส์ของแบงก์ชาติยุโรป (ECB) จะเป็นประเด็นสำคัญร่วมกับแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ของ Fed จะส่งแรงกดดันต่ออารมณ์ตลาดต่อไป
การเข้าซื้อพันธบัตรของจีนและญี่ปุ่นทำให้อัตราบอนด์ยีลด์สหรัฐลดลงและฉุดให้ดอลลาร์อ่อนค่า ตลอดจนการคาดการณ์ว่า ECB จะใช้นโยบาย Hawkish ก็เป็นปัจจัยลบสำคัญที่ฉุดค่าเงินดอลลาร์เช่นกัน
การปรับตัวลงของดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้ EURUSD ฟื้นตัวต่อเนื่องจากวานนี้ โดยราคาดีดขึ้นจากระดับต่ำสุดเดิมในรอบเดือนก่อนการประกาศของ ECB ขณะที่สกุลเงินที่มีความเสี่ยงก็ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากยอดขายปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนที่มีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อฝั่งขาซื้อ
น่าเสียดานที่ราคาน้ำมันดิบกลับไม่สามารถปรับขึ้นได้ท่ามกลางความกลัวว่าอุปสงค์จะชะลอตัวเนื่องจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นรวมถึงพิษจากโควิดในเอเชีย อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงอาจส่งผลให้ทองคำปรับขึ้น
BTCUSD และ ETHUSD ยังคงถูกกดดัน ณ ระดับต่ำสุดในรอบ 18 และ 17 เดือนตามลำดับ เนื่องจากการถอนเงินของ CoinBase รวมถึงการเทขาย 65,000 ETH บน Uniswap
แม้ว่า Fed มีแนวโน้มที่จะทำให้ตลาดผิดหวังมากกว่าการประกาศของ ECB แต่หากพิจารณาถึงความหวังในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% มีความเป็นไปได้ที่พาวเวลอาจไม่อนุมัติแผนดังกล่าวและอาจทำให้ตลาดผิดคาด
อีกประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามคือตัวเลขยอดขายปลีกของสหรัฐฯ ในเดือนพ.ค. และดัชนีการผลิตของ Fed แห่งนิวยอร์ก รวมถึงข่าวลือเกี่ยวกับประเด็น Brexit ด้วยเช่นกัน
สรุปแล้วมีหลายข้อมูล/เหตุการณ์ที่มีแนวโน้มที่จะสร้างความคึกคักให้ตลาด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนักเทรดต่อไป แม้มีแนวโน้มเป็นไปได้ที่นักลงทุนยังอาจเลือกที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อก็ตาม
ทำกำไรจากความเคลื่อนไหวในตลาดด้วยระบบ Copy Trade ของ MTrading พร้อมเงื่อนไขชั้นนำ:
คัดลอกการเทรดของนักเทรดมือโปรโดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ ด้วยค่าสเปรด 0 ผ่านบัญชี M.Pro!
ขอให้ท่านโชคดีในการเทรด!