ทิศทางตลาดโลกเริ่มกลับมาคงที่หลังเผชิญความผันผวนตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ก่อนรายงานตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ท้ายสัปดาห์นี้ โดยตลาดเริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หนุนให้หุ้นเอเชียหลายๆ ตัวมีทั้งบวกและลบปะปนกันไป อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนมากนักหลังกลับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบเกือบ 20 ปีวานนี้
จีนประสบปัญหาการล็อกดาวน์อีกครั้งซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อตลาด รวมถึงการหยุดส่งก๊าซของรัสเซียไปยังยุโรปอย่างกะทันหัน อย่างไรก็ตาม มีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่คลายอารมณ์ความกังวลของตลาดลง เช่นเดียวกับกับการเจรจาของกลุ่มประเทศยุโรป
อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐย่อลงจากจุดสูงสุดในรอบเดือน ส่วนตัวเลขการจ้างงานของญี่ปุ่นที่ปรับตัวดีขึ้น หนุนให้ USDJPY แตะระดับสูงสุดในรอบเดือน
ทั้งนี้ ราคาทองคำยังคงถูกกดดันต่อเนื่องท่ามกลางนโยบายเชิง Hawkish ของ Fed ขณะที่น้ำมันได้รับแรงหนุนให้ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบเดือนอีกครั้งจากความตึงเครียดด้านการเมืองในอิรักและการไร้ซึ่งสัญญาณของข้อตกลงน้ำมันระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน
ขณะเดียวกัน BTCUSD และ ETHUSD มีการฟื้นตัวต่อเนื่องจากต้นสัปดาห์ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐเริ่มทรงๆ ตัว รวมถึงการเฝ้าจับตาประเด็น Ethereum Merge
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์หลักหลายรายการ ดังนี้:
นักเทรดต้องเตรียมรับมือกับนโยบายที่เข้มงวดของธนาคารกลางและข้อมูลตัวเลขที่มีการปรับตัว ขณะกำลังจับตาการประกาศอัตราเงินเฟ้อสำคัญจากเยอรมนีและยูโรโซน รวมถึงตัวเลข Nonfarm (NFP) สหรัฐในวันศุกร์นี้ อย่างไรก็ตาม มองภาพรวมกราฟค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่กำลังเผชิญด่านสำคัญอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาย่อกลับลงมาในที่สุด
จีนมุ่งมั่นที่จะโน้มน้าวตลาดว่าจะสามารถสกัดกั้นภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ แต่นโยบาย Zero-covid และข้อกังวลที่ว่าแผนกระตุ้นอาจทำให้ธนาคารในจีนต้องประสบปัญหา รวมถึงภาวะถดถอยในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นปัจจัยลบที่ต้องระวงของจีน
ในขณะเดียวกัน ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อฝ่ายบริหารของโจ ไบเดนเตรียมขายอาวุธให้กับไต้หวัน
พิจารณาจากข้อมูลต่างๆ จำนวนใบอนุญาตก่อสร้างอาคารของออสเตรเลียไม่สามารถช่วยหนุนคู่เงิน AUDUSD ได้ เนื่องจากรัฐบาลออสเตรเลียตั้งเป้าการเคลื่อนไหวครั้งใหม่เพื่อต่อสู้กับความวิตกด้านเศรษฐกิจชะลอตัว
นอกเหนือจากประเด็นที่กล่าวมา ความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้เทรดเดอร์ยังระมัดระวังแม้จะมีการเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ทำให้หุ้นและคริปโตหลายๆ ตัวเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้
นอกจากตัวเลข CPI ของยูโรโซนและ NFP ของสหรัฐจะเป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ ยังมีวิกฤตพลังงานของยุโรปและแนวโน้มเศรษฐกิจที่น่ากังวลของ Fed รวมถึงการประกาศเงินเฟ้อในเยอรมนีและความเชื่อมั่นผู้บริโภคของคณะกรรมการสมาพันธ์สหรัฐฯ ที่ต้องติดตามเช่นกัน อีกทั้งยังมี Fedspeak และการกลับมาของนักเทรดอังกฤษหลังวันหยุดยาวที่ผ่านมาก็เป็นประเด็นที่นักเทรดไม่ควรพลาดเช่นกัน
ทำกำไรจากความเคลื่อนไหวในตลาดด้วยระบบ Copy Trade ของ MTrading พร้อมเงื่อนไขชั้นนำ:
คัดลอกการเทรดของนักเทรดมือโปรโดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ ด้วยค่าสเปรด 0 ผ่านบัญชี M.Pro!
ขอให้ท่านโชคดีในการเทรด!