นักเทรดยังไม่กล้าเผชิญความเสี่ยงอย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ เพิ่งกลับมาเปิดหลังจากช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา โดยการเลี่ยงความเสี่ยงได้รับปัจจัยลบเพิ่มเติมจากความกังวลเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอยและนโยบายที่เข้มงวดของธนาคารกลางรายใหญ่หลายแห่ง ซึ่งถึงแม้จะมีข่าวลือว่าสหรัฐอาจยกเลิกนโยบายการค้าบางอย่างกับจีนที่เกิดขึ้นในยุคทรัมป์ แต่อารมณ์ตลาดกลับยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาอยู่ในเชิงบวก
การเลี่ยงความเสี่ยงหนุนให้ดอลลาร์สหรัฐและผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ดีดตัวขึ้น ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสกุลเงินที่มีความเสี่ยงร่วงตามเคย
น่าเสียดายที่คู่เงิน AUDUSD ก็ไม่สามารถปรับตัวขึ้นจากการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ของแบงก์ชาติออสเตรเลีย (RBA) ขณะที่คู่เงิน NZDUSD รับภาระจากข้อมูลเศรษฐกิจในเชิงลบไปเต็มๆ
ในขณะเดียวกัน ทองคำและน้ำมันดิบก็ยังถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลก็กำลังเผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นตัวต่อจากวานนี้
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์หลักหลายรายการ ดังนี้:
ประเด็นความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างจีน-อเมริกาที่เริ่มคลี่คลาย และความพร้อมของจีนในการจัดสรรเงินประมาณ 5 แสนล้านหยวนสำหรับกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นปัจจัยหนุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงในเช้าวันอังคารนี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจากอิตาลีและเยอรมนีดูเหมือนจะเป็นแรงกดดันให้ตลาดยังอยู่ในความวิตกต่อไป อีกทั้งยังมีความกังวลว่าเจรจาสันติภาพทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอาจไม่ได้ช่วยบรรเทาวิกฤตด้านอุปทานและอัตราเงินเฟ้อตามที่คาดฯ
ขณะเดียวกัน แม้ RBA จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ตามที่คาดการณ์ แต่ไม่สามารถหนุนคู่เงิน AUDUSD ให้ปรับตัวขึ้นได้ และน่าเสียดายที่ตัวเลข PMI ภาคบริการของจีนจาก Caixin จะออกมาตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านั้นแต่ก็ยังไม่มีอิทธิพลมากพอต่อตลาด ขณะที่ข้อมูลความความเชื่อมั่นทางธุรกิจรายไตรมาสของนิวซีแลนด์กดดันให้ NZDUSD ย่อลงต่อเนื่อง
มูลค่าบอนด์ยีลด์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความกังวลด้านเศรษฐกิจถดถอยหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นไปทดสอบจุด High เดิมในรอบสองสัปดาห์ ซึ่งกดดันราคาทองคำและน้ำมันดิบให้มีการกลับตัวลง
BTCUSD และ ETHUSD เริ่มฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในระหว่างวันหยุดของสหรัฐ แต่ก็ไม่สามารถปรับขึ้นได้อย่างชัดเจนเนื่องจากข่าวลือเกี่ยวกับระบบภาษีคริปโตและกฎระเบียบเพิ่มเติมที่กำลังจะเกิดขึ้น
ยอดคำสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานของสหรัฐในเดือนพ.ค. และการประกาศ PMI ครั้งสุดท้ายของอังกฤษและตัวเลข PMI ของยุโรปเป็นประเด็นที่น่าติดตาม ก่อนการประชุม Fed minutes ที่กำลังจะถึงและข้อมูลตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm) ในเดือนมิ.ย. ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ตลอดจนการรายงานตัวเลข PMI ภาคบริการจาก ISM และรายงานการประชุมของธนาคารยุโรป (ECB)
พิจารณาจากความกังวลด้านเศรษฐกิจและความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงการที่ตลาดเพิกเฉยต่อสถานการณ์เชิงบวกในจีน มีแนวโน้มที่เงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าต่อเนื่องก่อนการประกาศข้อมูล/เหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ฝั่งขาซื้อทองคำและสกุลเงินที่มีความเสี่ยงต้องระวัง อย่างไรก็แล้วแต่ ราคาน้ำมันดิบอาจฟื้นตัวเร็วๆ นี้จากข่าวลือเกี่ยวกับประเด็นอุปทาน
ทำกำไรจากความเคลื่อนไหวในตลาดด้วยระบบ Copy Trade ของ MTrading พร้อมเงื่อนไขชั้นนำ:
คัดลอกการเทรดของนักเทรดมือโปรโดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ ด้วยค่าสเปรด 0 ผ่านบัญชี M.Pro!
ขอให้ท่านโชคดีในการเทรด!