ตลาดโลกเริ่มต้นสัปดาห์สำคัญที่ประกอบด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ของธนาคารกลางหลายแห่ง ตลอดจนแนวโน้มที่ธนาคารจะยังคงใช้นโยบาย Hawkish นำโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) โดยมีข่าวจากจีนและยูเครนที่ยังกดดันความเชื่อมั่นในตลาด และเพิ่มการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
เนื่องจากวันหยุดในญี่ปุ่นและอังกฤษทำให้ตลาดค่อนข้างซบเซา ขณะที่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวให้ติดตามมากนัก
อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้นและกดดันสกุลเงินหลักหลายๆ ตัว รวมถึง USDJPY
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยังคงไร้ความเคลื่อนไหว ขณะที่หุ้นฟิวเจอร์สขาดทุนเล็กน้อย ส่วนสินค้าโภคภัณฑ์ยังอยู่ ณ ระดับต่ำๆ ท่ามกลางการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
ส่วนทองคำและน้ำมันดิบยังคงถูกกดดันต่อเนื่อง ณ จุดต่ำสุดในรอบหลายเดือน ขณะที่คริปโตฯ ก็มีการปรับตัวลงในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์หลักหลายรายการ ดังนี้:
พิจารณาจากนโยบาย Hawkish ของ Fed ที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ หรือข่าวลือว่าสภาพเศรษฐกิจของจีนน่าเป็นห่วง ตลอดจนการหยุดชะงักของโรงไฟฟ้า Pevdinokrainsk ของรัสเซียส่งผลกระทบต่อความกังวลตลาด อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของแบงก์จีน (PBOC) พยายามชะลอการปรับตัวลงของราคา แต่ไม่สามารถช่วยได้
ความคิดเห็นจากรัสเซียและประธานาธิบดีสหรัฐยังเพิ่มความเสี่ยงด้านการเมืองและส่งผลเสียต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงหลายๆ ตัว
วิกฤตจากพายุเฮอริเคนฟิโอน่ากลับไม่ได้รุนแรงเท่าที่คาด รวมถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงอีกครั้ง ขณะที่ทองคำร่วงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองปีหลังตัวเลขลูกค้าสำคัญของจีนลดลง เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น และนโยบายเชิง Hawkish ของ Fed นั่นเอง
ความผิดหวังจากประเด็น Merge และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์คริปโตของ Fed ทำให้ฝั่งขาลงของ BTCUSD และ ETHUSD มีหวัง
นอกเหนือจากตัวเลขสถิติของแคนาดาและสหรัฐแล้ว ตลาดต่างๆ มีแนวโน้มที่จะยังคงไม่เคลื่อนไหวในทางลบต่อ อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่ราคาอาจกลับตัวได้ในระหว่างการรวมข้อมูลก่อนเหตุการณ์ และประเด็นอื่นๆ ในวันอังคารนี้
ทำกำไรจากความเคลื่อนไหวในตลาดด้วยระบบ Copy Trade ของ MTrading พร้อมเงื่อนไขชั้นนำ:
คัดลอกการเทรดของนักเทรดมือโปรโดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ ด้วยค่าสเปรด 0 ผ่านบัญชี M.Pro!
ขอให้ท่านโชคดีในการเทรด!