นักลงทุนหลายท่านคงสงสัยว่า “หุ้นปันผล” คืออะไร? แล้วเราจะได้กำไรอย่างจากหุ้นปันผล? และเราก็เชื่อว่านักเทรดส่วนใหญ่ก็กำลังมองหาหุ้นที่ลงทุนแล้วให้ผลตอบที่มั่นคง มีการจ่ายเงินปันผลจากกำไรและผลประกอบการของบริษัทเจ้าของหุ้นนั่นเอง
ว่าแต่… หุ้นปันผลเป็นยังไง? แล้วมันมีเงื่อนไขอย่างไร? ในบทความวันนี้ เราจะมาพูดคุยถึงข้อควรรู้ทั่วไปเกี่ยวกับหุ้นปันผล รวมถึงวิธีการคำนวณ และเรียนรู้วัน เวลา และวิธีในการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุน พร้อมแล้วไปลุยกันเลยครับ!
หุ้นปันผลเป็นหุ้นของบริษัทหรือองค์กรต่างๆ โดยตรงที่จะมีการปล่อยเงินปันผลออกมาจากผลประกอบการและรายได้สุทธิที่เติบโตขึ้นจนน่าพอใจ ทำให้นักลงทุนซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนของหุ้นทั้งหมดของบริษัทนั้นๆ สามารถรับเงินปันผลหรือส่วนแบ่งกำไรเป็นเงินสดได้ โดยบริษัทที่นักลงทุนส่วนใหญ่มักให้ความสนใจ คือบริษัทที่ปล่อยหุ้นใหม่ออกมาเรื่อยๆ ให้นักลงทุนสามารถรับผลประโยชน์จากปันผลได้ ถึงแม้ว่าราคาหุ้นอาจจะแข็งค่าขึ้นก็ตาม ทำให้บริษัทที่เลือกจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นกลายเป็นตัวเลือกในการทำเงินที่มั่นคงในระยะยาวให้กับนักลงทุนเลยทีเดียว
แน่นอน ว่าหลักการสำคัญไม่ใช่แค่การหาบริษัทอะไรก็ได้ เพื่อจะซื้อหรือลงทุนเป็นหุ้นส่วนของบริษัทนั้นๆ แต่ท่านจะต้องเลือกบริษัทที่มีแนวโน้มสร้างผลประกอบการหรือกำไรที่คุ้มค่าต่อการลงทุน และสามารถนำมาแบ่งสรรปันส่วนจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นได้ในแต่ละไตรมาส (4 รอบต่อปี), รอบครึ่งปี, ครั้งเดียวต่อปี, รายเดือน หรือในระยะเวลาอื่นๆ หากท่านเลือกลงทุนหุ้นที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่คงที่ (Irregular dividend)
เพื่อเข้าใจหลักการของหุ้นปันผลให้มากขึ้น ท่านลองนึกถึงบริษัทที่สร้างผลประกอบการได้เกินคาด มีรายได้ที่น่าพึงพอใจนะครับ ฝ่ายบริหารของบริษัทก็จะมี 2 ตัวเลือกการตัดสินใจหลักๆ ได้แก่:
หากฝ่ายบริหารตัดสินใจที่จะใช้วิธีที่ 2 ก็จะประกาศวันที่ในการปล่อยหุ้นออกมา
ตัวอย่างเช่น: บริษัทมีผลประกอบการที่เติบโตขึ้นจากการรายงานในไตรมาสที่ผ่านมา โดยฝ่ายบริหารตัดสินใจจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 1 พฤษภาคม จากนั้นตัวแทนของบริษัทก็จะออกมาประกาศล่วงหน้าเพื่อให้นักลงทุนรู้เกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผล และเมื่อถึงวันจ่ายเงินปันผล ผู้ถือหุ้นก็จะได้รับปันผลในยอด Balance หรือบัญชีธนาคาร
เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจง่ายๆ เราขอแบ่งประเภทของหุ้นออกเป็น 2 ประเภทหลัก โดยกลุ่มแรกก็คือหุ้นเติบโต (Growth stock) ซึ่งเป็นหุ้นของบริษัทที่เน้นการเติบโต มีโอกาสที่ธุรกิจจะขยายตัว และมีการรักษาระดับผลประกอบการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดการลงทุนอีกครั้ง
และอีกประเภทก็คือหุ้นคุณค่า (Value stock) ซึ่งเป็นหุ้นของบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ มีผลประกอบการที่มั่นคงสม่ำเสมอ รวมถึงมีรายได้ทะลุเป้าในการเติบโตอยู่แล้ว
แน่นอนว่าหุ้นคุณค่านั้นดูน่าสนใจกว่าสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ เพราะบริษัทเจ้าของหุ้นเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องการเงินทุนจำนวนมากจากผู้ซื้อหุ้นมาใช้ในการลงทุนเพิ่มเติม เนื่องจากบริษัทดังกล่าวมีผลกำไรที่น่าพอใจและทะลุเป้าตามการเติบโตของบริษัทอยู่แล้ว ดังนั้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตัวบริษัทให้มากขึ้น ฝ่ายบริหารจึงตัดสินใจแจกจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นแทน
ในฐานะนักลงทุน หน้าที่สำคัญของท่านก็คือการเลือกลงทุนในกลุ่มหุ้นที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งกลุ่มหุ้นส่วนใหญ่ที่นักลงทุนสนใจ ได้แก่:
บริษัทเจ้าของหุ้นปันผลจะมีการกำหนดวันที่ที่แน่นอนในการจ่ายเงินปันผล แต่ทั้งนี้ ใช่ว่าผู้ถือหุ้นทุกท่านจะได้รับเงินปันผลเสมอไป เพราะท่านอาจต้องถือหุ้นถึงจำนวน ภายในวันเวลาที่บริษัทกำหนด ก่อนถึงช่วง Ex-dividend date นั่นเอง โดยเงื่อนไขที่นักลงทุนจะต้องพิจารณา ได้แก่:
จะเห็นได้ว่าหุ้นปันผลเป็นหนึ่งตัวเลือกการลงทุนที่ง่ายและปลอดภัย ให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว แต่ทั้งนี้การซื้อหุ้นปันผลก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการลงทุนรูปแบบอื่นๆ เพราะหลังจากที่บริษัทตัดสินใจจ่ายเงินปันผลให้กับท่าน แทนที่จะเอาเงินกำไรนั้นมาลงทุนให้บริษัทเติบโตต่อ บางครั้งมันก็มีโอกาสเป็นไปได้ยากที่บริษัทจะได้เงินกำไรนั้นคืนมา ซึ่งถ้าหากผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสต่อไปไม่ออกมาดีตามที่คาดการณ์ หรือน้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้า บริษัทก็อาจจ่ายเงินปันผลให้ท่านน้อยลง ทำให้ท่านอยากขายหุ้นปันผลนั้นทิ้ง เพราะมันไม่สามารถให้เงินปันผลที่น่าพึงพอใจได้อีกต่อไป
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน