คู่เงิน NZDUSD ร่วงลงมากที่สุดในบรรดาคู่สกุลเงิน G10 ในขณะที่พลิกกลับจากการพุ่งสูงขึ้นรายสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบสี่สัปดาห์ โดยสาเหตุหลักอาจมาจากนักลงทุนในตลาดไม่เชื่อมั่นในแถลงการณ์เรื่องการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Adrian Orr ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) และเป็นที่น่าสังเกตว่าช่วงเทศกาลวันหยุดยาวในประเทศจีนยังหนุนให้เทรดเดอร์คู่เงินกีวีสามารถรักษาระดับช่วงขาขึ้นของสัปดาห์ก่อนไว้ได้ก่อนการรายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดการเผยแพร่ในวันอังคารนี้ อย่างไรก็ตาม การยืนยันรูปแบบการกลับตัวของกราฟขาขึ้นในวันศุกร์และสัญญาณขาขึ้นของ MACD และเส้น RSI (14) ที่เพิ่มสูงขึ้นจะเอื้ออำนวยให้ราคาค่อยๆพุ่งสูงขึ้น เว้นแต่ว่าจะเกิดการถอยกลับไปต่ำกว่าแนวต้านที่เปลี่ยนเป็นแนวรับที่ราวๆ 0.6100 ถึงกระนั้น เส้น 100-SMA และเส้นด้านล่างของรูปแบบกราฟขาขึ้นที่ระบุไว้ข้างต้นที่ประมาณ 0.6075 และ 0.6030 ตามลำดับ ตามมาอย่างรวดเร็วด้วยระดับราคาที่ราวๆ 0.6000 จะท้าทายแรงเทขายคู่เงิน NZDUSD ก่อนที่จะให้เข้าควบคุมตลาดต่อไป
ในขณะเดียวกัน แรงเทซื้อครั้งใหม่ของคู่เงิน NZDUSD สามารถรอการพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจนทะลุแนวต้านแนวนอนอายุห้าสัปดาห์ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 0.6175-80 หลังจากนั้น จุดสูงสุดในช่วงกลางเดือนมกราคมที่แกว่งตัวอยู่ที่ประมาณ 0.6280 และจุดสูงสุดในช่วงปลายปี 2023 ที่ราวๆ 0.6370 จะดึงดูดแรงเทซื้อคู่เงินกีวี ในกรณีที่ราคายังคงแข็งค่าเกินกว่าระดับราคาที่ราวๆ 0.6370 เป้าหมายทางทฤษฎีของการ breakout รูปแบบการกลับตัวของกราฟขาขึ้นซึ่งอยู่ที่ประมาณ 0.6450 จะอยู่ในความสนใจต่อไป
สรุปภาพรวม การอ่อนค่าลงล่าสุดของคู่เงิน NZDUSD จะไม่น่าสนใจนัก เว้นแต่ว่าจะได้รับแรงหนุนจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ปรับตัวลง รวมถึงการซื้อขายที่ระดับราคาที่ต่ำกว่า 0.6100 อย่างต่อเนื่อง