ราคาทองคำดีดตัวขึ้นจากโซนแนวรับอายุ 11 สัปดาห์และเส้น 100-DMA ขณะที่เข้าใกล้อุปสรรค์ที่ระดับเส้น 50-DMA ที่ราวๆ $1,992 โดยปัจจัยที่หนุนช่วงแนวโน้มขาขึ้นคือการพุ่งสูงขึ้นทะลุแนวต้านของโลหะมีค่าจากแนวต้านอายุหนึ่งเดือน ซึ่งตอนนี้แนวรับอยู่ในพื้นที่ที่กล่าวไปข้างต้นที่ราวๆ $1,932-40 นอกจากนี้ สัญญาณของช่วงแนวโน้มขาขึ้นที่ปรากฏขึ้นบนเส้น MACD และเส้น RSI (14) ที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นยังทำให้แรงเทซื้อคู่เงิน XAUUSD มีความหวังที่จะพุ่งสูงขึ้นไปที่ DMA ในทันที น่าสังเกตว่าตัวเลขกลมๆที่ $2,000 อาจทำหน้าที่เป็นฟิลเตอร์พิเศษที่บ่งชี้ถึงช่วงขาขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม การทะลุแนวต้านที่ชัดเจนนั้นสามารถผลักดันราคาทองคำไปสู่แนวต้านที่ราวๆ $2,050 ได้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะท้าทายจุดสูงสุดตลอดกาลที่ระดับราคาประมาณ $2,080
ในทางตรงกันข้าม การปรับตัวลงของราคาทองคำจำเป็นต้องได้รับการทดสอบราคาจากโซนแนวรับที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ที่ประมาณ $1,940-32 รวมถึงเส้น 100-DMA และแนวต้านก่อนหน้าตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมไปจนถึงระดับราคาต่างๆที่ทำเครื่องหมายไว้ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม หลังจากนั้นค่า Fibonacci retracement 38.2% ของเดือนกันยายน 2022 ถึงพฤษภาคม 2023 ที่พุ่งสูงขึ้นที่ราวๆ $1,896 อาจเป็นจุดหยุดพักถัดไปสำหรับแรงเทขายทองคำ ในกรณีที่คู่เงิน XAUUSD ยังคงเป็นช่วงขาลงเมื่อผ่านระดับราคาที่ราวๆ $1,896 ไปแล้ว ค่า Fibonacci retracement 5% และจุดต่ำสุดประจำปีในเดือนกุมภาพันธ์ที่ราวๆ $1,845 และ $1,804 ตามลำดับ ตามมาอย่างรวดเร็วด้วยระดับราคาที่คิดเป็นตัวเลขกลมๆที่ $1,800 จะอยู่ในความสนใจต่อไป
สรุปภาพรวม ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัว แต่หนทางในการกลับสู่ช่วงขาขึ้นนั้นยังคงไม่ราบรื่นและขึ้นอยู่กับรายงานตัวเลขข้อมูล Nonfarm Payrolls (NFP) ของสหรัฐฯอีกด้วย